หน้าเว็บ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

หน้าเว็บ

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กวดวิชาเชียงราย >ที่ไหนดี

เข้าชม websit "ติวกัน" คลิ๊ก www.tiwkan.com

กวดวิชาเชียงราย >ที่ไหนดี

สวัสดีครับวันนี้ผมขอมาอธิบายถึงหลักการในการเลือกสถาบันเรียนพิเศษที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครองต้อง รู้ และต้องศึกษาก่อนที่จะส่งบุตรหลานของท่านเข้าศึกษาตามสถาบันนั้นๆ เพื่อให้ได้ผลทางการเรียนที่ชัดเจน เห็นผลจริงๆ

ผมขออนุญาติจัดแบ่งประเภทของลักษณะของการเรียนพิเศษออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ เพื่อให้ผู้ปกครองได้เห็นภาพ อย่างชัดเจนว่า 4 กลุ่มใหญ่ขอลักษณะการเรียนพิเศษนั้นมีอะไรบ้าง มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร

การเรียนพิเศษประเภทที่ 1 เรียกว่า การเรียนพิเศษตามสถาบัน ก็ไม่มีอะไรมากครับ เป็นที่นิยมและเป็นที่คุ้ยเคยกันอย่างดี เป็นการรวมกลุ่มของนักเรียนจำนวนมากเข้าด้วยกัน 1 ห้องเรียนมีมากถึง 30 คนขึ้นไป แล้วแต่ที่นั่งเรียนของห้องเรียนนั้นๆ การบรรยายเป็นการบรรยายสดครับ จากครูผู้สอน ประจำโรงเรียนรัฐที่มีชื่อเสียง การเรียนพิเศษในลักษณะนี้เป็นการเรียนพิเศษที่มีมานมนานแล้ว และก็ยังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

ข้อดี: ครูผู้สอน ที่สถาบันเรียนพิเศษ อาจเป็นคนเดียวกันกับครูที่สอนรายวิชาที่โรงเรียน เมื่อนักเรียนทราบว่า ครูที่สอน สอนเพิ่เติมที่สถาบันเรียนพิเศษ นักเรียนก็จะแห่กันไปเรียน จึงทำให้นักเรียนกลุ่มนั้นได้ทบทวนเนื้อหาวิชาเรียนกับครูผู้สอน ที่เดิมก็สอน ที่โรงเรียนอยู่แล้ว รวมทั้งแนวข้อสอบ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักเรียนต้องการมากที่สุด จากการเรียนพิเศษในลักษณะนี้

ข้อเสีย: 1. บรรยากาศในการเรียนค้อนข้างแย่ ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีนักเรียน จำนวนมากต่อห้องเรียน การที่จะทำให้เด็กเกิดสมาธิในการเรียน นั้นเป็นไปได้ยาก

2. การดูแล ควบคุมจากครูผู้สอนให้ทั่วถึงนั้นเป็นไปได้ยากมาก ครูไม่สามารถที่จะอธิบายให้เด็กนักเรียนเข้าใจได้ทุกคน โดยอิงจากเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ที่เข้าใจ

3 ครูผู้สอนส่วนใหญ่มักมีคุณวุฒิ วัยวุฒิ ที่แตกต่างกับเด็กอย่างสิ้นเชิงระหว่างเด็กนักเรียน กับครูผู้สอน ดังนั้น การถ่ายทอดความรู้จึงเป็นอุปสรรค์

3.ค่าใช้จ่ายสูง

การเรียนพิเศษประเภทที่ 2 เรียกว่า การเรียนพิเศษตามสถาบัน แต่รูปแบบการเรียนการสอนเป็นการบรรยายทาง VDO VCD จำนวนนักเรียนก็ไม่แตกต่างจากการเรียนการสอนประเภทแรก แต่สิ่งที่เห็นชัดคือในปัจุบันนักเรียนให้ความสนใจในการเรียน การสอนในรูปแบบนี้มากขึ้น เพราะด้วยค่านิยม และเทคนิคการเรียนการสอนที่แตกต่างจากการสอนในประเภทที่ 1 จึงทำให้การเรียนการสอนประเภทนี้เป็นที่นิยม

ข้อดี : 1.นักเรียนได้เทคนิคการเรียนการสอนที่ดีมาก เท่าเทียบการเรียนการสอนที่กรุงเทพ เพราะเรียนผ่านสื่อการสอน ที่มีความเป็นมาตราฐานเดียวกัน

ข้อเสีย:1 บรรยากาศในการเรียนค้อนข้างแย่ ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีนักเรียน จำนวนมากต่อห้องเรียน การที่จะทำให้เด็กเกิดสมาธิในการเรียน นั้นเป็นไปได้ยาก

2. หากนักเรียนเิกิดข้อสงสัยในการเรียนการสอนตรงจุดใด ก็เป็นเรื่องที่ยากจะได้คำตอบ อย่างทันท่วงที เพราะ การเรียนการสอนไม่ได้เป็นการบรรยายสด แต่เป็การบรรยายผ่านสื่อการสอน VCD

3. ราคาสูงกว่าประภทแรก

การเรียนพิเศษประเภทที่ 3 เรียนกว่าการเรียนการสอนในลักษณะการเรียนพิเศษที่บ้านอาจารย์ หรือ ครูผู้สอนที่สอนรายวิชาเดียวกับที่โรงเรียน นั้นโดยตรงเลย อันนี้ ถือเป็นการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปกครอง และนักเรียนส่วนใหญ่ได้ดีทีเดียวเลย ทั้งเนื้อหา และ แนวข้อสอบที่นักเรียนต้องการ ก็สามารถตอบโจทย์การเรียนพิเศษในประเภทที่ 3 นี้ได้

ข้อดี : 1. ได้เรียนพิเศษเสริมเพิ่มเติมกับอาจารย์ที่สอนรายวิชาเดียวกันกับที่โรงเรียน ได้ทราบถึงแนวการสอน และแนวทางในการสอบที่ดี

2.การเรียนการสอนทั่วถึง ครูผู้สอนสามารถควบคุมดูแลนักเรียนได้ใกล้ชิดมากกว่า 2 ประเภทแรก

3.ราคาถูกกว่า 2 ประเภทแรก

ข้อเสีย: ด้วยวัยวุฒิ และ คุณวุฒิ ของครูผู้สอน กับนักเรียนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นอุปสรรค์ในการถ่ายทอดความรู้สู่นักเรียน

และการเรียนการสอนประเภทที่ 4 ประเภทสุดท้าย เรียกว่าการเรียนการสอน ในลักษณะการเรียนการสอบแบบตัวต่อตัว กับครูผู้สอนที่มีที่วัย และประสบการใกล้เคียงกัน หรือ ที่เรียนกว่าการ ติวหนังสือ แบบพี่สอนน้อง การเรียนพิเศษในลักษณะนี้เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง พอๆกับ ประเภทที่ 2 เห็นได้ชัดจากประเทศที่มีการแข่งขันทางการศึกษาที่สูง เช่น ประเทศญี่ปุ่น โดยการเรียนการสอนนั้นเน้นเป็นการเรียนแบบจับกลุ่ม กลุ่ม เล็กๆ หรือ เรียนตัว ต่อ ตัว การเรียนการสอนประเภทนี้สามารถตอบโจทย์การเรียนการสอน ของนักเรียนได้ดีที่สุด และ ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจมากที่สุดอีกด้วย

ข้อดี : 1 นักเรียนสามารถเช้าใจในรายวิชาเนื้อหาที่เรียนได้อย่างชัดเจน ด้วยการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัว และ ครูผู้สอนมีวัยและ ประสบการที่ใกล้เคียงกับนักเรีบย จึงสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ได้อย่างแม่ยำและ นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงอีกด้วย

2. สามาเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เนื้องจากการเรียนที่ มีจำนวนนักเรียนที่น้อย การเรียนการสอนนั้นจึงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกๆที่เช่น ห้องสมุด ตามห้างสรรพสินค้า ตามบ้านนักเรียน เป็นต้น

3. ไม่เสียเวลาผู้ปกครองไปรับ ไปส่งตามสถาบันที่เรียนนั้นๆ และ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกด้วย

ข้อเสีย : ราคาสูงมาก

เข้าชม websit "ติวกัน" คลิ๊ก www.tiwkan.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น